… อธิบายคำว่าละครนิเทศหน่อย
ละครนิเทศ คือ การเล่าเรืองที่โลกของหนัง (story world; setting; character; gimmick) มีความสำคัญกว่า คำถามของคนเล่า (thesis; theme; center dramatic question; message อย่างเดียวกันแล้วแต่จะเรียก)
Insight
คือ ทุกปีเด็กนิเทศจะมาประชุมกัน เลือก setting ของเรื่อง โดยเด็กนิเทศ เข้าใจว่า setting คือคำคำเดียวกับคำว่า theme ซึ่งไม่ใช่
- setting คือฉาก
- theme คือคำถามของเรื่อง
ด้วยความที่มันไม่มี “ตีม” จริงๆทุกปีละครก็จะถึงทางตัน และต้องตัดแปะให้จบเรื่อง นักแสดงกลับบ้านตีสี่
พอละครจบนักแสดงก็ออกมาโค้งและยิ้มเจื่อนๆ หลังบ้านก็ช่วยกันอวยๆกันทุกช่องทางให้มันจบๆไป ก็เพื่อนอะนะ
สมมติว่าถ้าคุณอยู่ใน BBC writer room เฟรมเวิร์กมันจะเป็นแบบนี้
- นักเขียน ตั้งคำถามก่อน อยากจะเล่าเรื่องเพื่อถามอะไร
- ส่งให้ supervisor ไม่โอเค เขาจะส่งกลับไปให้แก้ ถ้าโอเคเขาให้เขียนต่อ
- นักเขียนจึงเลือก story world, setting, character profile
- พัฒนาจนเป็นสคริปต์
- ผ่านแล้วก็หาทุนทำโปรดักชัน ผกก นสด (จุดนี้คนเขียนได้เงินแล้ว สบ๊าย)
… ไม่เพียงแค่นั้น
บนห้องเวิกช็อปละคร จะมี buzz words หรือคำติดปากอยู่
เช่น objective; super objective
ซึ่งมาจากหนังสือของครูอักษรที่เขียนไว้หลายสิบปีแล้ว และเป็นตำราการแสดงภาษาไทยเล่มเดียวที่พวกเขาจะหาอ่านกันได้ คำสองคำดังกล่าวจริงๆเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างจะเก่าไปแล้วด้วย
ปัญหาก็คือ objective กับ super objective มันเกี่ยวกันกับ ตีม หรือ คำถามใหญ่ กับ คำถามย่อยๆของแต่ละซีน ทีนี้แหละ ชิบหาย เพราะละครนิเทศมันไม่มีตีม จะใช้เครื่องมือนี้ยังไง? ก็ใช้ไม่ได้นะสิ เหมือนคุณเอาโคดหลังบ้านแอนดรอยด์มารันระบบไอโอเอส
ขอไม่ลงลึกนะ
ละครนิเทศ คือการโชว์เคสความสามารถของทีมคนหาตัง คนทำการตลาด คนขายบัตร ต่างหาก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะไปอยู่ทีมพวกนั้น น่าจะได้อะไรเยอะ ยิ่งเล่นเรื่อง วิลล่าสมาริส นี่คือเสียเวลาชะมัดเลย
เวลามองงานจีดีเอช ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า
- ถ้าเอาทีมการตลาดเขาออก เอาครีเอทีฟไว้อย่างเดียว จะเป็นยังไงบ้าง?
- แล้วถ้าเอาทีมครีเอทีฟไว้ เอาทีมการตลาดออกไป จะเป็นยังไงเหมือนกัน?
ไม่ได้จะว่าใครนะ
ที่เขียนเพราะคิดว่า สมัยเราเรียน ปี1 ปี2 ถ้ามีรุ่นพี่มาบอกเราบ้าง เราคงได้มุมมองกับข้อมูลมาช่วยตัดสินใจได้ดีกว่านี้ ซึ่งชีวิตจริงมันก็ไม่เป็นเรื่องเป็นราวเท่าไหร่หรอก แต่ละครนิเทศก็ไปไกลกว่าชีวิตจริงมากๆ
