รีวิวละครเรื่อง “กูรู้เธียเตอร์” (ปานรัตน์, เทศกาลละครกรุงเทพฯ 2022, หอศิลป์กทม.)

--

  • ปานรัตน์ชี้ให้เราเห็นว่าการนับถือครูสอนการแสดงก็เหมือนกับการนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สันนิษฐานว่าคนไทยนั้นเชื่อง่ายเพราะเหตุว่าความเชื่อในภูตผีตกทอดมาแต่ก่อนรัตนโกสินทร์
  • เรื่องมีอยู่ว่า “อาจารย์คอ” อัญเชิญผีการแสดงต่างๆมาลงทรง เพื่อจะช่วยแก้ปัญหาให้กับ “อีบ่วย” (ซึ่งผู้เขียนฟังเป็น “ป่วย”) ซึ่งฝันอยากจะเป็น “เจ้าหญิงแห่งเทศกาลละครกรุงเทพฯ” ให้ได้อีกสักครั้ง
  • พวกเขาบนบานบุคคลต่างๆ ซึ่งเป็นชื่อของบุคคลที่ผู้เขียนคิดว่าสามารถจะปรากฏอยู่ในบทความเรื่อง “ประวัติศาสตร์ของการแสดง” ได้ พวกเขาบนบานบุคคลเหล่านั้นด้วยเชื่อว่าจะได้ค้นพบเทคนิคที่ลึกล้ำ
  • แต่สนทนากันไปมากลับพบว่า ไอเดียของการแสดงอาจจะง่ายกว่านั้นมาก เพราะมันคือทักษะอย่างเดียวกันกับที่ใช้จัดการกับลูกและผัวที่บ้าน ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องทำเซสชั่นสั้นนิดเดียวเพียง 10 นาทีแต่ราคาแพง
  • การทำให้มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้นก็เพื่อการเติมเต็มความหมายให้กับการดำรงอยู่ที่ไม่มีค่าของตน เพื่อหาเงินเลี้ยงปากท้องจากความฝันและความงมงายของผู้ไม่มีความสามารถคิดเพื่อตนเอง
  • บรรทัดฐานที่ถูกกำหนดโดยคนอื่นทำให้เราเสียสุขภาพจิต — ป่วย อ.คอ และ บ่วย (ไม่ใช่ “ป่วย”) ถกเถียงกันโดยยืมเอาเหตุผลคลิเช่ๆของทั้งฝั่งเอาเทพการแสดง และฝั่งเซคูลาเรี่ยนมาใส่ปาก เช่น “ทำไมมึงไม่โดด” “ถ้ามึงติดกรอบ มึงก็อดเซอไพรส์ตัวเอง” “มันคือความเป็นมนุษย์”
  • ผู้เขียนเบื่อที่จะสนใจว่าศิลปินสาขาการแสดงคนไหนจะมีแพรคทิสแบบใด เชื่อในอะไร ใครบ้างนับถือเขา เขาได้เงินจากใครบ้าง และคนที่เขาได้เงินนั้นต้องใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะตาสว่าง เพราะมันไม่เก๋พอ และการอ้างอิงถึงสิ่งต่างๆและความป่วยไข้ของสังคมก็คงจะมีอยู่ต่อไป และแม้แต่ศิลปินที่หมดไฟไปแล้วก็น่าจะยังคงอยากจะเซอไพรส์ตนเอง
  • แต่สิ่งที่ผู้เขียนสนใจ คือความสนุกของงานของปานรัตน์ ความสนใจและทัศนคติที่ปานรัตน์เลือกจะใช้เข้าถึงประเด็นที่เธอต้องการนำเสนอมันตลก แล้วมันก็ฉลาด มันมีความคิดที่เข้าใจได้และอรรถรส

--

--

Radtai Lokutarapol
Radtai Lokutarapol

Written by Radtai Lokutarapol

Eventually found himself at Royal College of Art, having stumbled upon theatre; cinema; tech; luxury, torn between business and art, from LDN; PAR; MIL; BKK

No responses yet