รีวิว เวิร์คชอปการเขียนกวีไร้รูปแบบ: มีคนบอกว่าการเขียนคือเซลฟ์แคร์

--

“การเขียนคือเซลฟ์แคร์” โอเชียน วุง นักเขียนเวียดนาม-อเมริกันชื่อดังคนหนึ่งกล่าว “ฉันมักเริ่มต้นจากอารมณ์โกรธ แล้วค่อยๆจัดการกับมันบนหน้ากระดาษ”

“ผลักอารมณ์ออกไปให้ห่างจากตัว” หยกแชร์ “แล้วสร้างขึ้นมาเป็นงาน”

หยกเปิดสมุดกวี บางบทเป็นการเขียนอย่างอิสระตามปกติ บางบทเล่นกับสีของตัวอักษร บางบทเล่นกับขนาดและบรรทัด

การเขียนเกี่ยวข้องกับอารมณ์ลึก ปลุกให้ตื่น สุมให้ร้อน ต้มให้เดือด จนอารมณ์ขึ้นมาเรียงบนพื้นผิว จากนั้นจับมันจัดวางเพื่ออธิบายความจริงของเรา มันหนักข้างใน ใช้อะไรมากมายจากข้างใน ฟังดูลึกซึ้งมั๊ย?

ฉันคือใคร? เธอคือใคร?

มันคือวันอาทิตย์ ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ที่ Kilik แถวซอยอารี สุขุมวิท26 ห้องกว้าง หลังคาสูง พอให้เมฆลอยบนหัว บนโต๊ะ มีสมุดสีแดงและของอื่นๆวางอยู่ เสิร์ฟค็อกและม็อกเทล

“เราจะใช้มูดบอร์ดและฟรีไร้ติ้ง” (การเขียนอย่างอิสระไม่หยุดโดยไม่คิดอะไรเลย) “ในการสร้างบทกวี” ฝนแชร์ระหว่างบทสนทนาเล็กๆสร้างความคุ้นเคยกัน

ฉันทำมูดบอร์ดครั้งแรกที่ London College of Fashion ในคอร์ส Fashion Design คนสอนขอให้สร้างบอร์ดหนึ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เราชอบ อีกหนึ่งสิ่งที่เราเกลียด วิธีทำเหมือนกันในวันนี้ เปิดนิตยสาร ตัดอะไรก็ได้ที่อยากตัด แปะมันบนบอร์ด ระบายสี หรือจะอะไรก็ตามที่อยากทำ

“ไม่ต้องคิดอะไร เซอไพรส์ตัวเอง” นึกถึงสิ่งที่ติวเตอร์เคยบอก การตัด แปะ ลงสี เหมือนเป็นเรื่องง่ายแต่มันผ่านอะไรในตัวเยอะ

และนี่คือมูดบอร์ดเต็มไปด้วยความริษยา กับความปรารถนา เจ็บปวด มีเงื่อนไขของเวลา และเสียงที่น่ารำคาญจากภายนอก

จากนั้นลงมือเขียนฟรีไร้ติ้ง ก่อนจะเปิดหนังสือนิยายมูราคามิตรงหน้า เลือกประโยคที่โดนใจมาตัดแปะอีกครั้ง แต่คราวนี้เพื่อเรียงมันให้เป็นบทกวี

“เมื่อออกเดินทาง

ฉันจินตนาการถึงเมืองหนึ่ง ห่างไกล

หยุด และหันหลังมอง

เดี๋ยวค่อยคิดถึงมันก็ได้

เมื่อกลับถึงบ้าน

เป็นไง?

เขามองฉันและยิ้ม กลับมาไวจังนะ

ความเป็นจริง คือ ความเป็นจริง

แค่ใช้เหตุผลเป็นเรื่องง่าย

ไม่เป็นไรที่จะคิดว่า

“ก็เพราะว่ามันคือความจริง”

ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถกำจัดความสงสัยที่ฉันมีอยู่

ฉันสงสัยว่า

“ฉันไม่ได้กำลังใช้เวลาและเรี่ยวแรงทั้งหมด

ไปกับการฉุดรั้งและจำกัดตัวเองเอาไว้กับมุมมองเดียว

จนไม่ได้ชีวิต”

(having lost all living warmth?)

ภาพและเรื่องราวที่ได้ ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง “Supernova” (2020) หนังเกย์ดราม่า พูดถึงความเจ็บปวดจากการกลับไปมีชีวิตอย่างแต่ก่อนไม่ได้ แสงไฟของดวงดาวที่ค่อยๆมอดลง นักเขียนที่ป่วยเป็นความจำเสื่อมออกเดินทางกับคนรักเพื่อไปจบชีวิตในสถานที่ที่ตัวเองชอบที่สุด

การสร้างงานศิลปะ เช่น กระบวนการสร้างบทกวีนี้ คือการสร้างความยุ่งเหยิง มันเป็นกระบวนการที่น่ากลัวเหมือนกัน บางทีก็ต้องแตะสิ่งที่เรายังเจ็บปวดกับมันอยู่ แต่ก็ทำงานได้ลึกจนประหลาดใจ

การมีคนทำด้วยหลายคนทำให้รู้สึกได้รับการประคับประคอง กล้าปล่อยให้ตัวเองหายเข้าไปในอารมณ์ก่อนจะใช้รูปแบบบางอย่างของบทกวีจับมันไว้ แล้วถ่ายทอดมันออกมา ได้อ่านมันให้คนอื่นฟัง ได้หาว่าอะไรในประกายตาคนตรงข้ามที่ทำให้เราพูดบทกวีออกมา และฟังความหมายที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อมันถูกปลดปล่อยจากเราไปสู่ใจคนอื่น — — ลงกระดาษ ผ่านเสียง สู่โลก — — เหมือนไวน์บอร์โดที่บ่มมาดีๆหาแก้วเสิร์ฟให้คนได้ลองรส

--

--

Radtai Lokutarapol
Radtai Lokutarapol

Written by Radtai Lokutarapol

Eventually found himself at Royal College of Art, having stumbled upon theatre; cinema; tech; luxury, torn between business and art, from LDN; PAR; MIL; BKK

No responses yet