บันทึกถึง 2023: ปีที่ฉันเอาชนะความกลัวด้วยปรัชญา Existentialism และเติบโตอย่างกล้าหาญ
1. เซลฟี่แห่งอัตถิภาวะนิยม (Existential Selfie): ถ่ายภาพซ้ายบนที่ห้องน้ำคอมม่อนทองหล่อ ในปลายเดือนธันวาเมื่อผ่านทุกเรื่องราวของปีนี้มาแล้ว
2. พบเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบมานานโดยบังเอิญ: ออกจากคอมม่อนฉันได้พบเพื่อนเก่าโดยบังเอิญ ฉันในครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเพื่อนคนนี้ยังมีความปรารถนาและความเชื่อที่แตกต่างออกไปจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง ตอนนั้นฉันยังฝันอยากเป็นนักแสดง อยากไปเรียนที่ลอนดอนอยู่เลย เลมจริงๆ
3. “It’s absurd to divide people into good and bad. People are either charming or tedious.” — Lady Windermere’s Fan: เราอาจไม่ได้ดีกับทุกคน แต่จะมีคนที่เราดีด้วยได้ นี่เป็นเรื่องธรรมดา เพื่อนทำให้เราตระหนักถึงความคิดนี้ — I prefer to be charming not to be good
4. Nostalgia: มันทำให้นึกถึงทางเลือกที่เคยเกิดขึ้นแต่ละครั้งในชีวิต และหลายๆ ครั้งเราก็เลือกสิ่งที่ตัวเองคิดไม่ถึงว่าจะเลือก เช่นเดียวกันกับปีที่แล้ว ฉันมีโอกาสจะได้ย้ายไปอยู่สิงคโปร์ แต่หลังจากไปเดินใน National Gallery ของที่นั่นแล้วฉันก็ตัดสินใจได้ว่าฉันไม่อยากไปอยู่ที่นั่น ฉันเลือกจะอยู่ที่กรุงเทพฯต่ออีกปี และมันอาจดูเป็นการตัดสินใจโง่ๆ
5. อิสรภาพแบบของ ฌอง ปอล ซาร์ต: “ฉันคืออิสรภาพของฉันเอง” ฌอง ปอล ซาร์ต กล่าว และกลายเป็นแก่นสำคัญของตัวฉันในปีนี้ เมื่อฉันตัดสินใจแบบนั้น และตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ ไปตามที่ได้ไตร่ตรองด้วยตัวเองแล้วว่ามันจะถูก
6. เลือกทางที่เราอยากจะเลือก: บางทีฉันอาจจะเคยจบหนทางเก่าๆ ในชีวิตไวเกินไปจากความเชื่อ และบรรทัดฐานอื่นๆ ที่ไม่ได้มาจากตัวเอง ปีนี้ฉันจึงลุยไปตามความสงสัยของตัวเอง ดีกว่าจะต้องไปเป็นพนักงานติ๊กออลเดอะบ็อกซ์อยู่ที่เมืองสิงคโปร์ติ๊กออลเดอะบ็อกซ์แอสเวล
7. ความเห็นแก่ตัวคือพระพร: การหันมาเห็นแก่ตัวกับสิ่งที่อยากจะทำช่วยให้ฉันให้ความสำคัญกับสิ่งที่เติมเต็มตัวเองมากกว่าความคาดหวังจากสิ่งอื่นๆ
8. ต่อสู้กับไมเกรน: ไมเกรนกลายเป็นโรคประจำตัว และการปรากฏตัวในเชิงกายภาพของอุปสรรคที่ฉันเผชิญอยู่ ทำให้ฉันต้องตั้งคำถามต่อร่างกายและจิตใจ และสถานการณ์ของชีวิต และเส้นทางของชีวิตตัวเองอย่างจริงจัง
9. อ่านหนังสือ ฟังพอดแคสต์ และพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ: ฉันอ่านหนังสือหลายเล่มในช่วงที่ไมเกรนหนักมากเนื่องจากเล่นโทรศัพท์ไม่ได้เลย ฉันยังแอบไปหาผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนเพื่อทำความเข้าใจว่าฉันคิดอะไรอยู่ อยากได้อะไร และสิ่งที่ฉันทำและจะทำต่อไปมันโอเคหรือยัง แต่หลายครั้งฉันมักจะถูกท้าทายเช่นกัน ทำให้ฉันตระหนักถึงการจำเป็นต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง
10. ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ: บางทีถ้าฉันไม่เชื่อผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่ง ฉันจะไปพบอีกท่านหนึ่งเพื่อเปรียบเทียบกัน แต่ก็ไม่ได้ทำบ่อย เช่น ตอนไม่ไว้ใจหมอรักษาไมเกรน
11. หมากรุกจีน: คิดว่าเมื่อเลือกที่จะไม่ไปสิงคโปร์ ฉันต้องมีสิ่งที่จะสามารถทำแล้วสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันได้ โดยมีสิ่งที่วัดความสำเร็จเป็นรูปธรรมชัดเจน ฉันจึงเลือกที่จะอุทิศตัวเองให้กับการเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย แต่ไมเกรน…
12. ทำความเข้าใจ 2021 และ 2022: การเอา “การแสวงหาความมั่นคง” ในปี 2021 มาเปรียบเทียบกับ “การเผชิญความกลัวลึกๆ” ในปี 2022 ช่วยแสดงพัฒนาการของความเข้าใจในเรื่องว่าอะไรคือความสุขสำหรับฉัน และค่านิยมอะไรบ้างจากสังคมที่ฉันไม่สนใจ และอะไรบ้างที่ฉันสนใจ ฉันไม่ปฏิเสธไปซะทุกอย่าง ฉันไม่ใช่คนขวางโลก แต่เป็นคนมีเหตุมีผล
13. ข้อเสนอให้ไปเรียนต่อมากมายจากหลากหลายมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ: เช่น Royal College of Art, Paris-Saclay University, Luiss University ช่วยให้ฉันได้มองเห็นความหมายและสิ่งที่อยากทำจริงๆ มากขึ้นจากการลองถามตัวเองด้วยการสมัครเรียนไปเลยจริงๆ แล้วก็ได้รับข้อเสนอให้ไปเรียนจริงๆ ด้วย ซึ่งนำพามาสู่การตัดสินใจย้ายประเทศจริงๆ ในที่สุด
14. รางวัลของการเล่นหมากรุกจีน: จะผิดจะถูกยังไงก็แล้วแต่ รางวัลที่ได้มาบ้างในปีนี้ก็มอบให้กับความยอมรับความจริงที่ว่า ความสำเร็จต่างๆ นั้นต้องการเวลา
15. ไมเกรนเริ่มสงบลง: ฉันปวดน้อยลงมาก และจัดการได้เมื่อความปวดเกิดขึ้น
16. ผ่านมาได้โดยไม่ยอมสแกนสมอง: เพราะหาข้อมูลแล้วว่าอาการที่เป็นไม่ได้จำเป็น นี่คือการท้าทายความคิดความเชื่ออีกอย่างหนึ่ง ในการเลือกวิธีรักษาด้วยตัวเอง
17. การพบหมอครั้งสุดท้าย: รับใบรับรองแพทย์เพื่อติดตัวไปใช้รักษาต่อหากมีอะไรเกิดขึ้นในประเทศปลายทาง เป็นการจบเส้นทางของการรักษาในบทนี้ เพื่อเริ่มบทต่อไป
18. อิสรภาพที่นำมาซึ่งความกลัว: ฉันพบว่าความรู้สึกไม่สบายใจเมื่อกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอาจมีสองอย่าง คือ หนึ่ง ไม่สบายใจเพราะรู้สึกได้ว่าสิ่งเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น กับ สอง ไม่สบายใจ เพราะรู้สึกได้ว่าเรากำลังจะเปลี่ยนแปลง และก้าวไปข้างหน้า แต่เราไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรบ้าง
19. อิสรภาพในการเลือกของ ซิโมน เดอ บูวัว: การทำตามไอเดียของเดอบูวัวที่ว่า “ฉันมีอิสระในชั่วขณะที่ฉันเลือก” ช่วยให้ฉันตระหนักถึงอำนาจในตัวเองที่ฉันสามารถพบได้เมื่อต้องตัดสินใจ และทำให้ฉันเลือกที่จะตัดสินใจกำหนดเรื่องราวของตัวเองในปีนี้
20. ชีวิตคือผืนพรมที่ถูกเราถักทอ: เปรียบชีวิตเป็นผืนพรมหมายถึงการยอมรับและชื่นชมกับทุกประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราตัดสินใจไปแล้ว นำมาสู่ความรุ่มรวยแห่งการดำรงอยู่ในปีนี้ของฉัน
21. ทางเลือกอันเป็นปัจเจกและเส้นทางที่ไม่เหมือนใคร: ความยอมรับว่าทุกคนคือผลผลิตของทางเลือกของตนเอง ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับการเดินทางและผลกระทบของการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตฉันไปได้ในแต่ละครั้ง
22. การดำรงอยู่คือการเปลี่ยนแปลงไปไม่รู้จบ: การยอมรับว่าชีวิตคือกระบวนการค้นพบและเปลี่ยนแปลงช่วยสร้างความไหลลื่นให้กับการเติบโตของฉัน
23. อัตถิภาวะนิยม หรือความเชื่อที่ว่ามนุษย์เป็นอิสระ: ทำให้ฉันกล้าเลือกทางเดินและกำหนดความหมายให้กับชีวิตที่ลำพังตัวมันเองนั้นเป็นสิ่งไร้สาระไม่มีแก่นสาร
24. อิสรภาพในการกำหนดเส้นทางของตน: ทำให้ฉันหาทางไปต่อได้ในชีวิตที่โดยตัวมันเองมีความซับซ้อนสูง
25. ค้นพบความหมายในความไร้สาระ: อัตถิภาวะนิยมช่วยให้ฉันพบความหมาย ซึ่งความหมายในทางอัตถิภาวะนิยมสามารถค้นพบได้จากประสบการณ์ส่วนตัว จึงจำเป็นต้องใช้ชีวิตเรียนรู้และหาคำตอบให้กับตัวเอง
26. สิ่งท้าทายต่างๆ มีเพื่อเป็นโอกาสในการสำรวจ สร้างการเติบโต และทำความเข้าใจชีวิตให้ดีขึ้น
27. ความสุขที่ไปต่อ: การค้นพบวิถีทางที่ทำให้ฉันพบความสุขต่อไปเรื่อยๆ โดยที่มันจะเป็นเรื่องที่ทับซ้อนกันหรือไม่กับความคาดหวังของสังคมก็ได้ แต่ทำให้ฉันมีความสุข
28. “ในขณะที่เธอยังเยาว์วัยอยู่ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความกลัว ด้วยพวกเราส่วนใหญ่เมื่อมีอายุมากขึ้น มักจะตื่นตกใจง่าย เรากลัวการดำเนินชีวิต กลัวตกงาน กลัวกฎเกณฑ์ประเพณี กลัวเพื่อนบ้าน กลัวสามีหรือภรรยาจะมาว่ากล่าวนินทา เรายังกลัวความตายอีกด้วย พวกเราส่วนมากล้วนมความกลัวไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ที่ใดซึ่งมีความกลัว จะมีเชาว์ปัญญาอยู่ด้วยหาได้ไม่ ดังนั้นในขณะที่เรายังเยาว์อยู่ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเลือกอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความกลัว ที่ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งเสรีภาพ เสรีภาพไม่ใช่การทำทุกอย่างตามที่ตนปรารถนาจะทำ แต่เป็นเสรีภาพที่จะช่วยให้เข้าใจขั้นตอนทั้งหมดของชีวิต…การมีชีวิตอยู่คือการค้นหาสัจจะด้วยตนเอง เธอจะทำสิ่งนี้ได้ก็ต่อเมื่อเธอมีเสรีภาพ เมื่อเธอมีการปฏิวัติอยู่ภายในอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นการปฏิวัติภายในตัวเธอเอง” (กฤษณมูรติ)